Posted by: ningnung | December 4, 2007

ภาษาเด็ก

Signori presidenti
di tutti i parlamenti,
chiudete per una volta
il libro dei regolamenti
e date la parola al mio bambino.

ท่านประธานที่เคารพ
ของทุกๆ สภา
ปิดสักครั้งเถิดหนา
ตำรา กฎข้อบังคับทั้งหลาย
ขอเถิดครับกล่าวอะไรให้กับลูกชาย
ของเกล้ากระผมทั้งหลายได้ฟัง

Dovrete fare uno sforzo per capire
quello che vi vuol dire
nella sua strana lingua
internzionale:
baba’, bobo’, bibi…
Ma un giorno anche voi
parlate cosi’.

ท่านลองพยายาม
ทำความเข้าใจความหมาย
ในภาษาประหลาดๆ
ใช้ระหว่างชาติมากมาย
บาบ๊ะ โบโบ๊ะ บิบิ๊…
ที่ครั้งหนึ่งพวกท่านทั้งหลาย
ก็เคยพูดกัน

La cosa e’ naturale:
e’ il suo primo discorso
da quando e’ arrivato
su questa terra.
Non sara’ cosi’ elegante
come quello d’un deputato,
ma e’ molto importante.

คำเหล่านี้แม้จะดูประหลาด
แต่เป็นสิ่งธรรมชาติรังสรรค์
เมื่อท่านถือกำเนิด
ก็เคยใช้พูดกัน
แม้มิเลิศหรู
ดั่งคำ ส.ส. เสกสรรค์
แต่มีความสำคัญ
ไม่ต่างจากคำที่ใช้อภิปรายกันในสภา

Attenti, ha cominciato:

TA TA …TI …TI … TU … TU…

Chiarissimo, vi pare?
Significa:“Di guerre
non se ne doveno fare
mai piu’!”

(Applausi in tutti i settore.)

ตั้งใจฟัง เขาเริ่มพูดแล้ว:

ตา ตา … ติ … ติ… ตู… ตู …

ชัดเจนไหม, ใครรู้สึกบ้าง?
มีความหมายบางอย่างในนั้น
“ สงครามต้องไม่เกิด
หยุดการรบราฆ่าฟัน!”

(เสียงปรบมือดังสนั่น ทุกฝ่ายพร้อมใจกันปรบมือ)

Bo… Bo… BI… BR….”Signori
– questo vuol dire- cercate
di credere un pochino
alle fiabe delle fate.
Basta volere
e diventano vere.
Quelle povere vecchiette
avevano appena
le loro vecchie bacchette,
ma voi avete ben altra virtu’.
Toccate i deserti
e diventeranno giardini
dite le parole magiche
e spunteranno le citta’,
si apriranno le porte della felicita’…”

(Applausi fragorosi.
Qualche protesta qua e la’:
i piu’ danarosi
hanno creduto forse che parlasse
di un aumento di tasse…)

โบ… โบ… บิ… บร..  ท่านทั้งหลาย
– มีความหมายดังนี้- ลองดูสักที
ลองเชื่อยึดถือ
ในเทพนิยาย นิทาน
เพราะจินตนาการนั้นคือ
พลังที่จะยึดยื้อ…ให้ฝันนั้นกลายเป็นจริง
คนชรายากจน ขัดสน แร้นแค้น
มีเพียงไม้เท้าง่อนแง่นเป็นสิ่งหวงแหน…สุดเศร้า
แต่พวกท่านแตกต่างจากเรา
สามารถช่วยบรรเทาทุกข์ร้อน
แตะผืนทะเลทราย
ให้กลายเป็นสวน
ร่ายเวทมนต์สักกระบวน
เนรมิตเมืองให้สดใส
ประตูแห่งความสุขจะเปิดออกทันใด

(เสียงปรบมือกราวใหญ่
มีใครบางคนประท้วง
พวกคนร่ำคนรวย
คงหวาดหวั่นในทรวง จึงพากันทักท้วง
เพราะนึกว่าพูดเรื่องขึ้นภาษี…)

MA … MA … MA … MA …

No, non chiama la mamma,
dice nel suo linguaggio:
“Viva la liberta’!
Viva la primavera
che viaggia liberamente
di frontiera in frontiera
senza passaporto,
con un seguito di primule
mughetti e ciclamini
che attraversando i confini
cambiano nome come
passeggeri clandestini”

Tutti i fiori del mondo son fratelli.

Applauso molto vivo.

(Una voce stride,
ma questi sono discorsi ribelli.)

ม่า … ม่า… ม่า… ม่า …

เปล่า…ไม่ใช่คำกล่าวเรียกแม่
เขาพูดภาษาเดิมแท้ มีคำแปลดังนี้:
เสรีภาพจงเจริญ!
ฤดูใบไม้ผลิมีเสรี
เดินทางข้ามแดนโน้นนี้
โดยไม่ต้องมีหนังสือเดินทาง
มวลบุปผานานาพันธ์
ข้ามพรมแดนขวางกั้น
เปลี่ยนนามเรียกขานตามถิ่นนั้น
ดั่งพวกลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย
ดอกไม้ทุกดอก แม้เบ่งบานกระจัดกระจาย
แต่พวกมันทั้งหลาย…ล้วนพี่น้องกัน

เสียงปรบมือกึกก้อง

(ได้ยินเสียงกรีดร้อง
แต่รับรองไม่ใช่คำคัดค้าน)

Il discorso e’ finito
perche’ il bambino adesso vuol giocare
col suo cavallo
di pelo giallo.
Lasciatelo giocare in pace!
Fate che le sue parole
diventano legge
in ogni terra dove giunge il sole.

สุนทรพจน์สิ้นสุด
เพราะลูกกระผมเร่งรุด
อยากไปเล่นม้าของเขา
ม้าตัวนี้มีขนสีเหลืองงามเงา
ปล่อยเขาเล่นของเขา…เถิดครับท่าน!
ขอพวกท่านนำคำพูดวันนี้
ตรองดูให้ดี ร่างเป็นกฎหมาย
ถึงวันนั้น…เมฆหมอกจะมลาย
ด้วยแดดสวยสายสว่างทั่วทุกแดน

****

Gianni Rodari : ผู้แต่ง
Il Secondo Libro delle Filastrocche : ชื่อเรื่อง
Nungning : ถอดความ


Responses

  1. หมายเหตุ:
    ผู้แปลพยายามรักษารูปแบบคำประพันธ์ (ร้อยกรอง) ของผู้แต่งไว้
    จึงจำต้องตีความเพิ่มเติม และเพิ่มคำบางคำเพื่อให้ลงสัมผัส
    อย่างไรก็ตามผู้แปลได้พยายามอย่างที่สุดแล้วที่จะคงเนื้อความเดิมให้มากที่สุด ผิดพลาดประการใดได้โปรดให้อภัยมือใหม่หัดแปล

  2. เรียน ท่าน จขบ.

    แปล ได้ สวย มาก เลยค่ะ
    แม้ว่า ข้าพเจ้าจะแปลภาษาต้นฉบับไม่ออก
    แต่ว่า ชอบสำนวนการแปลมากเลยค่ะ

    แอบอ่านอยู่นานแล้ว

    นับถือ ที่ท่านมุ่งมั่น ตั้งใจ

    ข้าพเจ้าเอง เคย ตั้งใจจะเป็นนักแปล แต่ลงท้ายก็โอนถ่ายไปพยายามทำอย่างอื่นแทน

    ^^

  3. โอ

    แปลได้เป็นธรรมชาติมากครับ
    อาการเกร็งภาษาต้นฉบับหายไปจนหมดเกลี้ยง
    ‘เชื่อว่าคุณหนุงหนิงก้าวข้ามความเป็นมือใหม่หัดแปลแล้วนาขะรับ’

    อดรู้สึกยินดีไปด้วยไม่ได้ครับ

  4. สวัสดีค่ะคุณแพท (ขอเรียกย่อๆ แบบนี้ก็แล้วกันนะคะ)

    ข้าพเจ้านั่งทำตาปริบๆ อยู่นานสองนาน จขบ.ย่อมาจากเจ้าของบ้านหรือเปล่าคะ ถ้าใช่ข้าพเจ้าขอเปลี่ยนเป็น จขส. เจ้าของสวนได้ไหมเอ่ย^ ^

    ขอบคุณมากค่ะที่แวะเข้ามาเดินชมต้นอักษร
    พร้อมนำหยดน้ำมารินรดให้ต้นอักษรได้ชุ่มฉ่ำ

    อยากเป็นนักแปลเหมือนกันหรือคะ คุณแพทถนัดภาษาอะไรเอ่ย
    น่าเสียดายที่ล้มเลิกความตั้งใจไปเสียแล้ว ไม่ลองกลับมาแปลใหม่หรือคะ

    ข้าพเจ้าเองบางทีนั่งแปลงานไป ก็นั่งถามตัวเองไปว่าทำไปทำไม คำตอบที่ได้มีเพียงสองประการ

    ประการแรกคือ ทำแล้วมีความสุข ข้าพเจ้ารู้สึกสนุกในการนึกคำ คิดประโยคให้ได้ความตรงกับต้นฉบับ เวลาอ่านบางครั้งเรารู้ศัพท์ทุกตัว เข้าใจความหมาย แต่กว่าจะเขียนเรียบเรียงออกมาได้ ทำไมมันยากเย็นอย่างนี้หนอ ดังนั้นทุกประโยคที่แปลได้ คือความสุขใจเล็กๆ น้อยๆ ค่ะ

    ประการที่สอง เรื่องบางเรื่องข้าพเจ้าอ่านแล้วรู้สึกว่าน่ารักดี ผู้เขียนมีมุมมองแปลกๆ เลยอยากถ่ายทอดให้คนที่ไม่รู้ภาษาอิตาเลียนได้มีโอกาสได้อ่านบ้างเท่านั้นเอง

    ส่วนเรื่องความมุ่งมั่น ตั้งใจ แหะ แหะ อย่าเพิ่งกล่าวชมเลยค่ะ
    บางวันข้าพเจ้าก็แอบขี้เกียจเหมือนกัน
    แปลเรื่องเค้กบนท้องฟ้านานๆ เริ่มเบื่อ เลยต้องหาเรื่องอื่นมาแปลสลับบ้าง เขียนอะไรไม่เป็นเรื่องเป็นราวบ้าง

    อย่างไรก็ขอขอบคุณสำหรับกำลังใจค่ะ

    ศุกร์สันต์ลั้น ลัน ลาสวัสดิ์เจ้าค่ะคุณอัมโปะ

    ขอบคุณที่มาช่วยพรวนดิน รดน้ำ ใส่ปุ๋ยให้ต้นกล้าวรรณกรรมเยาวชนเจ้าค่ะ ในเรื่องสำนวนการแปล กลิ่นนมเนยอาจเริ่มกลบด้วยกลิ่นส้มตำปูปลาร้า แต่เรื่องศัพท์ สำนวน ไวยากรณ์ภาษาอิตาเลียนข้าพเจ้ายังต้องฝึกอีกมาก

    ข้าพเจ้าขอสารภาพว่าบางครั้งข้าพเจ้าไม่เข้าใจประโยคบางประโยคอย่างถ่องแท้ว่าแปลว่าอะไร เปิดดิคชันนารีจนมือเป็นระวิงก็ยังไม่กระจ่าง ต้องอาศัยลูกเดา(ถ้าเดาไม่ยากจนเกินไปนัก) แต่ถ้าเดาไม่ออกจริงๆ ต้องหอบหนังสือไปถามเจ้านายถึงที่ทำงาน ตอนนี้เจ้านายข้าพเจ้าเริ่มชินแล้วเจ้าค่ะ เวลาข้าพเจ้าถามศัพท์แปลกๆ

    เจ้านายข้าพเจ้าให้ข้าพเจ้ายืมหนังสือภาษาอิตาเลียนมาเล่มหนึ่งหนาสี่ร้อยกว่าหน้า (อ่านมาหลายเดือนแล้วยังอ่านไม่จบ ฮ่า ฮ่า) ข้าพเจ้าอ่านแล้วนึกถึงคุณอัมโปะมากเลย หนังสือเล่มนี้ถ้าจำไม่ผิดนายข้าพเจ้าบอกว่าแปลมาจากภาษาเยอรมัน ชื่อเรื่องภาษาอิตาเลียนคือ La Storia Infinita แต่งโดย Michael Ende เป็นเรื่องของเด็กคนหนึ่งที่หลุดเข้าไปในโลกของจินตนาการผ่านทางหนังสือที่เขาอ่าน คิดว่าถ้าคุณอัมโปะได้อ่านน่าจะชอบ

    ข้าพเจ้าคิดว่าคงยังไม่มีฉบับแปลภาษาไทย น่าเสียดายถ้าข้าพเจ้าอ่านภาษาต้นฉบับออก อยากจะหยิบเรื่องนี้มาแปลให้ได้อ่านกัน คาดว่าคงใช้เวลาไม่เกินสิบปี ฮ่า ฮ่า

    การแปลจากภาษาอื่นมาแล้วทอดหนึ่ง ถึงคนแปลจะแปลเก่งแค่ไหนก็ตาม ก็คงไม่สามารถรักษาความตามต้นฉบับได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ ดังนั้นถ้าต้องแปลเป็นภาษาไทยอีกทอดหนึ่ง คาดว่าคงทำให้คำและความตกหล่นตามรายทางเพิ่มขึ้นไปอีก ข้าพเจ้าจึงตั้งใจไว้ว่าจะไม่แปลหนังสือที่ไม่ได้เขียนจากภาษาต้นฉบับเจ้าค่ะ

    โม้เสียยาว เริ่มปวดหลัง แค่นี้ก่อนนะเจ้าคะ

    ป.ล. ว่าแต่จะซื้อเก้าอี้ส่งมาให้ข้าพเจ้าจริงหรือเปล่า รออยู่นะ
    อุอุ ย้อเย่น


Leave a comment

Categories